ทัพช้างศึก “ทีมชาติไทย” มาได้ประตูในช่วงสุดท้ายของครึ่งหลังก่อนที่จะ เอาชนะ ทีมชาติเนปาล ไปได้ 2-0 ในเกมนักอุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์
การแข่งขันฟุตบอลในเกมนัดอุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ เมื่อวันพฤหัสบดี 24 มีนาคม 2565 ทีมชาติไทย ทีมอันดับที่ 112 ของโลก เปิดสนาม ชลบุรี สเตเดียม รับการมาเยือนของ ทีมชาติเนปาล ทีมอันดับที่ 167 ของโลก โดยเกมในนัดนี้ จะมีการนำผลการแข่งขันมาคำนวณอันดับในฟีฟ่าแรงอิ้งด้วย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนามในเกมนัดนี้
ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย เลือกวางแผนรับมือมาในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู – กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล , กองหลัง – ทริสตอง โด, พรรษา เหมวิบูลย์, เฉลิมศักดิ์ อักขี และ เควิน ดีรมรัมย์ , กองกลาง – ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จับคู่กับ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และในแดนหน้ามีสามประสานในแนวรุกเป็น ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และพิชา อุทรา โดยทิ้งหน้าเป้า อดิศักดิ์ ไกรษร (กัปตันทีม) ไว้ทำเกมรุกคนเดียว
ส่วนทางทีมชาติเนปาล มี อับดุลลาห์ อัล มูไตรี หัวหน้าโค้ชของเนปาล เลือกใช้ระบบ 4-3-3 โดยมี ผู้รักษาประตู – กิราน คูมาร์ ลิมบู กองหลัง – สุราจ เจอ ธากูรี , ดิเนช ราชบันชิ , อนันตะ ตามาง และ เอริค บิสต้า กองกลาง – เทจ ทามัง , ปูจัน อุปาโกติ และ ซุมาน ลามา กองหน้าใช้สามแนวรุก อายุช กาลัน ,ดาร์ชาน กูรุง และ อันจาน บิชตา คอยทำเกมในแนวรุก
เริ่มเกมในครึ่งแรก นาทีที่ 7 ธนบูรณ์ จ่ายบอลไปทางขวาให้กับ ทริสตอง โด แล้วส่งบอลต่อไปกับ พิชา ไปจังหวะยิง แต่บอลพุ่งไม่แรงและไปตรงตัว กิราน คูมาร์ ลิมบู ผู้รักษาประตูเนปาลพอดี ทีมชาติไทยพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
ต่อมาในนาทีที่ 13 เป็นโอกาสของทีมชาติไทยอีกครั้ง เมื่อ วรชิต ได้โอกาสบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ และชิพบอล แต่บอลไปติด กิราน คูมาร์ ลิมบู ผู้รักษาประตูที่ออกมาสกัดบอลได้เร็ว ทำให้ทีมชาติไทยพลาดโอกาสไปอีกครั้งหนึ่ง
มาในนาทีที่ 19 เป็นทางฝั่งทีมชาติเนปาล ที่ได้โอกาสทองบ้าง เมื่อ เนปาล บุกขึ้นมาทางริมขวา ก่อนที่ เทจ ทามัง กองกลางของเนปาล จะเปิดบอลมากลางประตู และเป็นทาง ดาร์ชาน กูรุง ได้จังหวะขึ้นโหม่ง แต่บอลโด่งข้ามคานออกไป
นาทีที่ 27 เป็นโอกาสของทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ พิชา ได้จังหวะไหลบอลให้กับ ปฐมพล แบบโล่งๆ แต่ ปฐมพล ก็ทำประตูขึ้นนำให้ทีมชาติไม่ได้ ซัดบอลข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 31 เควิน เปิดบอลมาจากริมซ้าย เขามาในเขตโทษให้กับทาง อดิศักดิ์ วิ่งเข้าหวังยิงประตูแต่พลาดไปโดนบอล บอลไหลมาที่เสาสอง ที่ พิชชา อยู่ แต่ก็ยิงไม่โดนบอลเช่นกัน
มาในนาทีที่ 42 เปิดทางฝั่งเนปาลได้บุกบ้าง เมื่อ เทจ ทามัง ตัดสินใจยิงไกล ในระยะ 30 หลา แต่บอลข้ามคานออกไป
นาทีที่ 45+1 ธนบูรณ์ มีโอกาสได้ยิงไกล แต่บอลก็ยังข้ามคานออกไป จบเกมในครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบสกอร์กันไปที่ 0-0
มาเริ่มเกมในครึ่งหลัง นาทีที่ 47 เชาว์วัฒน์ เปิดบอลไปให้ อดิศักดิ์ ได้โอกาสขึ้นโหม่ง แตะบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
มาในนาทีที่ 58 เชาว์วัฒน์ ได้โอกาสลองยิงไกล แต่ไม่พ้นมือ กิราน คูมาร์ ลิมบู ผู้รักษาประตูเนปาล กระโดดขึ้นไปปัดบอลออกไปได้
นาทีที่ 65 เควิน ดีรมรัมย์ ได้โอกาสหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่ยิงบอลหลุดออกข้างประตูไปอย่างน่าเสียดาย
มาในนาทีที่ 68 วรชิต เปิดบอลเข้ามากลางประตูและเป็นทางด้าน พรรษา ที่ได้จังหวะ ขึ้นโหม่ง แต่บอลพุ่งไปชนคานเพียงนิดเดียว
นาทีที่ 78 และแล้วทีมชาติไทยก็ทำสำเร็จ เมื่อ ฟิลิปส์ โรเลอร์ ได้บอลแล้วพาบอลเลื้อยเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะหาจังหวะยิงประตูพาบอลตุงตาข่ายได้สำเร็จ ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1-0 แต่ในจังหวะนี้ อับดุลลาห์ อัล มูไตรี นายใหญ่ของทีมชาติเนปาล มองว่าเป็นการฟาวล์ไปก่อนแล้ว และมีการโบกมือในลูกทีมออกจากสนาม ทำให้ตัวเขาโดนใบเหลืองไป และยังมีนักเตะเนปาลบางราย เข้าไปโวยวายกับทาง โรเลอร์ นักเตะทีมชาติไทย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับมาเล่นเกมกันต่อ
มาในนาทีที่ 88 ทีมชาติไทย ได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 เมื่อ เชาว์วัฒน์ ได้บอลในกรอบเขตโทษ แล้วพลิกตัวหันมาซัดบอลเข้าประตูไป
หมดเวลา 90 นาที ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะ ทีมชาติเนปาลไปได้ 2-0 โดยก่อนเกมนัดนี้จะเริ่มขึ้น “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้ประกาศมอบเงินอัดฉีดให้กับทางนักเตะ คนละ 50,000 บาท หากเก็บชัยชนะในเกมอุ่นเครื่องทั้งสองนัดได้