ดีแคลน ไรซ์ เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 1999 ที่เมืองคิงสตัน อัพพอน เทมส์ ประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่ของเขาเป็นชาวไอริช ประเทศไอร์แลนด์ แต่พวกเขาถือว่ามีหัวใจเป็นชาวอังกฤษโดยแท้ และด้วยการที่ ดีแคลน ไรซ์ เป็นลูกคนเดียว เขาจึงถูกเติมเต็มด้วยความรักของทั้งพ่อและแม่ ทุกครั้งที่เขาไปเล่นฟุตบอล พ่อแม่ของเขาจะพากันไปดูลูกลงสนามด้วยกันเสมอ
ซึ่งในตอนเด็กๆ ดีแคลน ไรซ์ มักจะขอของขวัญที่เกี่ยวกับฟุตบอลทุกครั้งที่มีโอกาส โดยเขามีความฝันที่จะเติบโตมาเป็นนักฟุตบอลที่ดี เพื่อตอบแทนครอบครัวของเขาเมื่อเขาประสบความสำเร็จ
ดีแคลน ไรซ์ เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลของเขา ด้วยการเข้าสู่อคาเดมีของสโมสรเชลซี ในปี 2006 ซึ่งเขามีอายุเพียง 7 ขวบ ไรซ์ เป็นเด็กที่ฉายแววความสามารถมาตั้งแต่ยังเล็ก จนกลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะชุดเยาวชนของเชลซี ที่ได้ชื่อว่ามีความแข็งแกร่งและโหดที่สุดในลอนดอน
ในช่วงเวลานั้น เป็นเวลาเดียวกับที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเชลซี ในปี 2006 และมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเด็กวัย 7 ขวบ ที่จะอยู่รอดในสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งนี้ เนื่องจากเชลซีมีความต้องการนักเตะดาวรุ่งมาร่วมทีมอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ เด็กที่เข้ามาสู่อคาเดมีของเชลซีจะต้องพบกับความกดดันและต้องต่อสู้แข่งขัน เพื่อความสำเร็จของตัวเอง จากเพื่อน ก็กลายมาเป็นคู่แข่งกัน
สุดท้ายในปี 2014 ในตอนนี้เขามีอายุ 14 ปี ดีแคลน ไรซ์ ก็รู้ว่าเขาไม่อาจรับมือกับแรงกดดันที่เกิดขึ้นนี้ได้อีกต่อไป และมันก็ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของเขา และถูกเชลซีปล่อยตัวออกไป ซึ่งมันก็เป็นความเจ็บปวดของเด็กน้อยที่ถูกปฏิเสธในสิ่งที่เป็นความฝันของเขาทั้งชีวิต แต่หลังจากนั้น ดีแคลน ไรซ์ ก็ได้ตระเวนไปคัดตัวตามสโมสรต่างๆในท้องถิ่นไปเรื่อยๆ และในปี 2015 เขาก็ได้รับข่าวดีเมื่อ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้มีการพูดคุยเพื่อให้เขามาทดสอบฝีเท้ากับทีม และในที่สุด ไรซ์ ก็ได้ย้ายเข้าสู่อคาเดมีของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และที่นั่น ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาอย่างแท้จริง
ในทันทีที่ ดีแคลน ไรซ์ เข้าไปสู่เวสต์แฮม เขาก็ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในนักเตะของทีมเยาวชนของเวสต์แฮมในทันที เรียกได้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของเขาถูกต้องเลยทีเดียว และเขาใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกในปี 2015 และเขาก็ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปีของเวสต์แฮม ซึ่งเขาก็สามารถโชว์ฟอร์มอันโดดเด่น จนในที่สุดก็ได้ติดทีมชุดใหญ่ และเกมแรกที่เขาได้ลงสนาม นั่นก็คือเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2016-2017 ที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลงสนามพบกับ เบิร์นลีย์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ในฤดูกาล 2017-2018 เกมแรกที่เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงคือ เกมที่พบกับ เซาแธมป์ตัน ในเดือนสิงหาคม 2017 ซึ่งในเกมนั้น เวสต์แฮม แพ้ไป 2-3 ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัดไปถึง 31 นัดในทุกรายการ และในเกมที่เป็นที่จดจำนั่นก็คือ เกมที่เขากลับไปเยือนยังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี และในฤดูกาลนี้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นอายุไม่เกิน 19 ปีแห่งปี กับอีกหนึ่งรางวัลที่สองผู้เล่นแห่งปีของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2017-2018
ในปี 2019 ดีแคลน ไรซ์ สามารถทำประตูแรกของเขาได้ในเกมที่ชนะ อาร์เซนอล 1-0 ซึ่งโดยปกติแล้วตำแหน่งกองกลางตัวรับ การทำประตูไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งนี้ และในปีนี้เขายังถูกเสนอชื่อให้เข้าชิง รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA อีกด้วย
ต่อมา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ได้ทำการขยายสัญญากับเขา ไปจนถึง 2024 และยังได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย
และหลังจากวันนั้น ชื่อของ ดีแคลน ไรซ์ ก็กลายมาเป็นตัวหลักของทีมมาโดยตลอด ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ และด้วยฟอร์มอันโดดเด่น ทำให้ ดีแคลน ไรซ์ กลายเป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจจากทีมดังหลายๆทีม โดยจุดเด่นของเขา คือ ความมุ่งมั่นและตั้งใจ เขามีความถนัดทั้งสองเท้า เก่งในการดึงเกมของคู่ต่อสู้ ไม่มีความผิดพลาดในการพลิกตัวเล่นบอล และด้วยความสูงของเขาที่มีถึง 188 เซนติเมตร ก็เป็นจุดแข็งของเขาในการเล่นลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ดีแคลน ไรซ์ ยังมีความสามารถมากกว่าที่หลายๆ คนคิด เขามีความสามารถตัดบอลจากคู่แข่ง และโดดเด่นในเรื่องการผ่านบอล และปรับเกมรับให้กลายเป็นเกมรุก
เขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางที่ระบุประเภทไม่ได้ ซึ่งก็เพราะการที่เขาทำได้ดีในทุกตำแหน่ง เขาสามารถปะทะกับคู่แข่งได้ตามสไตล์การเล่นแบบสมัยเก่า และแย่งบอลคืนมาแบบสไตล์การเล่นสมัยใหม่ก็ทำได้ดี เขากลายเป็นนักเตะกองกลางที่ว่ากันว่ามีค่าตัวเกิน 100 ล้านปอนด์ในตอนนี้
ผลงานในทีมชาติ ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดในประเทศอังกฤษ และเขาก็เลือกเล่นในกับทีมชาติไอร์แลนด์ ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ในปี 2015 และในปี 2018 เขาก็ได้ติดอยู่ในทีมชาติชุดใหญ่ของไอร์แลนด์ แต่ก็มีข่าวออกมาว่าเขาจะไปเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษหลังจากที่ได้รับการทาบทาม ซึ่งในตอนนั้น ทางทีมชาติไอร์แลนด์ ได้ยื่นข้อเสนอให้กับเขาอยู่เล่นต่อกับไอร์แลนด์ ด้วยการมอบตำแหน่งกัปตันทีมชาติให้กับเขาในอนาคต และจะมีเขาเป็นกำลังหลักของทีมต่อไป แต่สุดท้ายในปี 2019 ไรซ์ ก็ได้ไปเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ซึ่งก็ได้รับความยินยอมจากฟีฟ่า เพราะใน 3 เกมที่เขาเคยลงเล่นให้กับไอร์แลนด์ เป็นเกมอุ่นเครื่องเท่านั้น
และตั้งแต่วันนั้นเขาก็เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษมาโดยตลอด จนมาได้รองแชมป์ยูโร 2020 โดยจนถึงในตอนนี้เขาลงสนามให้กับทีมชาติอังกฤษมาแล้ว 16 นัด ทำไป 1 ประตู